vscode-java

มาเตรียม VS Code เราให้พร้อมเรียน Java กันดีกว่า (พร้อมสอนใช้งาน)

Published on
3 mins read

ที่ MUICT ตอนนี้ก็จะเข้าเทอม 2 แล้วซึ่งจะเรียน Object Oriented Programming กัน แล้วแน่นอนว่าจะหลุดพ้นอะไรไปไม่ได้นอกจาก Java ดังนั้นเราก็จะมาบอกวิธีการตั้งค่า VS Code ไว้ใช้ทำงานกับไฟล์ .java กันนะครับ

ขั้นตอนที่ 1: เตรียมของเล่นให้ครบ

เหมือนตอนลง VS Code กับ gcc เลยแต่ต่างกันที่ว่าเราจะลง JDK (Java Development Kit) แทน gcc

Visual Studio Code สามารถโหลดตรงๆจากเว็บของเค้าได้เลย

Java SE Development Kit 11 ไปโหลดและติดตั้งที่เว็บของ Oracle

ขั้นตอนที่ 2: ติดตั้ง JDK 11

ก็โหลดไฟล์มาแล้วก็ติดตั้งกันไปก่อน

Windows

โหลดมาเป็นแบบ .exe แล้วก็ติดตั้งไป

Windows

macOS

โหลดมาเป็นแบบ .dmg แล้วก็ติดตั้งไป

พอเสร็จแล้วก็ไปเพิ่ม Environment Variable

คำเตือน! ตั้งสมาธิกับขั้นตอนนี้ให้ดีเพราะอาจทำให้คอมเจ๊งได้

Windows

ให้ไปที่ Control Panel > System & Security > System แผงด้านซ้ายให้กดไปที่ Advanced System Setting แล้ว Popup ก็เด้งมาให้กดไปที่ Environment Variables คราวนี้เราจะไปยุ่งกับ System Variable ข้างล่าง

แล้วก็กด New คราวนี้ก็เพิ่มของอยู่ 2 อย่าง

  • Variable Name ให้ตั้งชื่อว่า JAVA_HOME
  • Variable Value ก็ให้ใส่ Path ที่ติดตั้ง JDK เข้าไปอย่างของเราก็จะเป็น C:\Program Files\Java\jdk-11.0.1

ENV

แล้วก็เพิ่ม C:\Program Files\Java\jdk-11.0.1\bin ลงไปใน PATH เหมือนตอนที่ทำกับ gcc ด้วย

กด OK เรื่อยๆให้ออกมาแล้ว Restart เครื่องรอบนึง ไม่ก็ Log off แล้ว Sign in ใหม่

macOS

เปิด Terminal.app Applications > Utilities > Terminal แล้วพิมพ์ตามนี้เพื่อเปิด Editor ไฟล์ .profile ขึ้นมา

$ emacs .profile

แล้วก็พิมพ์ตามนี้ ในกรณีนี้ JDK จะอยู่ที่ /Library/Java/Home

JAVA_HOME=/Library/Java/Home
export JAVA_HOME;

จากนั้นก็ Save แล้วออกมาจาก emacs ซะ เพื่อให้ชัวร์ๆก็ลอง Log off แล้ว Sign in ใหม่ด้วยก็โอเค

ขั้นตอนที่ 3: ตั้งค่า VS Code

Extenstion ที่เราจะติดตั้งนั่นก็คือ Java Extension Pack แล้ว Install ซะและ Reload ไปตามระเบียบ

พอติดตั้งเสร็จแล้วก็ไปที่ File > Preferences > Settings แล้วค้นหาคำว่า java.home แล้วก็กดให้ไป Edit ต่อใน settings.json

Settings

จากนั้นก็ที่ User settings ก็ใส่ค่านี้เข้าไป

{
  "java.home": "C:\\Program Files\\Java\\jdk-11.0.1"
}

อันนี้จะไว้ใช้ Specify path ของ Java บน VS Code อย่างของเราเป็น C:\Program Files\Java\jdk-11.0.1

User Settings

แล้วก็ Reload อีกทีโดยกด F1 แล้วพิมพ์หา Reload Window และกด ENTER

เพียงแค่นี้ก็พร้อมใช้งานแหล่วววววว

GIF

สร้าง Java Project

เอาจริงๆตั้งแต่ Java 11 มันก็เขียน .java ตรงๆเลยก็ได้ แต่เดี๋ยวกันเหนียวเอาไว้เผื่อหลักสูตรไม่ทันตามเวลา

ก็ไปที่ Root Folder ที่จะวาง Project Folder เอาไว้ก่อน กรณีนี้ขอเป็น ~/Documents/workspace/java

$ cd ~/Documents/workspace/java

แล้วก็เปิด VS Code แม่ง!

$ code .

กด F1 แล้วหา Java: Create Java project

Step 1

แล้วก็เลือกตำแหน่งเป็น Root Folder นี่แหละ

Step 2

แล้วก็ตั้งชื่อโปรเจคเป็นชื่ออะไรก็ได้ตามที่ต้องการ อย่างอันนี้จะตั้งชื่อว่า riffydaddyallhome แล้วกด ENTER

#ริฟฟี่พ่อทุกสถาบัน

Step 3

ผ่างงงงโปรเจคพร้อมใช้งานแล้ว!!

Step 4

Debuging Project

ระบบ Debuging ของ VS Code จะบอกว่าเป็นอะไรที่สะดวกมากๆ เพราะเราสามารถเช็คการทำงานได้แบบขั้นต่อขั้นเลยทีเดียวโดยสามารถทำได้ตามนี้

กำหนดจุด Breakpoints เพื่อให้บอกว่าจะให้โปรแกรมหยุดที่จุดนี้ชั่วคราวก่อน จากนั้นกด F5 เพื่อเริ่มการ Debuging

Debug 1

จากนั้นโปรแกรมก็จะทำงานเรื่อยๆจนมาถึงจุดที่กำหนด Breakpoint แรกเอาไว้ ซึ่งบรรทัดที่หยุดอยู่จะยังไม่ทำงาน สั่งให้ทำงานต่อได้ด้วยการกดปุ่ม Step Into ที่วงไว้หรือ Shortcut คือ F11 แล้วสามารถย้อนขั้นตอนกลับได้ด้วยการ Step Out คือปุ่ม Shift + F11

Debug 2

คราวนี้พอมาถึง Breakpoint ต่อไปจะเห็นว่าตัว Debugger สามารถ Monitor ดูตัวแปรได้ด้วยเชนกัน!

Debug 3

แล้วพอมาทำ Lab จริงๆก็แนะนำว่าให้สร้างตัวแปรมาจำลอง Input ก่อนแล้วค่อยใส่ตัวรับ Input ไปตอนส่งงานจะดีกว่า

Editor Note

ตอนนี้ยังคิดอยู่ว่าจะทำยังไงให้ตัว Debugger Console สามารถรับ input ได้ก็เดี๋ยวรอติดตามอัพเดต Blog นี้ไปสักระยะนึงละกันแล้วจะมาเพิ่มวิธีให้

สรุป

จากจุดนี้ก็จะสามารถใช้งาน VS Code ในการเขียน Java ได้แล้ว และอีกคำแนะนำคือพยายามใช้งาน Debugger บ่อยๆเพราะถ้าใช้งานเป็นแล้วจะช่วยได้เยอะมากเวลาทำงานที่เป็น Project แล้วถ้ามีปัญหาอะไรสามารถสอบถามได้เสมอนะครับ ;)